new tags
พระเจ้าอยู่หัว จะไม่บรรทมหลับข้ามวัน หมายถึง จะไม่บรรทมหลับตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนจนข้ามไปอีกวันหนึ่ง แต่พระองค์จะเข้าบรรทมก็ต่อเมื่อเป็นเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ยึดมาเป็นหลักปฏิบัติที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ทรงอธิบายที่มาของธรรมเนียมนี้ ไว้ว่า ในเวลากลางคืนนั้นพระเจ้าอยู่หัวฯ จะเปรียบเสมือน นายยาม ที่ทำหน้าที่คอยปกปักรักษาระวังภัยให้แก่ราษฎรของพระองค์
เพราะเป็นเวลาที่ราษฎรทั้งหลายพักผ่อนนอนหลับหลังจากประกอบอาชีพมาทั้งวัน หากมีข้าศึกหรือมีภัยร้ายมาในเวลากลางคืน พระองค์ก็จะสามารถจัดการป้องกันภัยให้แก่ราษฎรได้อย่างทันท่วงที และเมื่อถึงตอนเช้าเหล่าประชาราษฎรตื่นนอนแล้ว พระเจ้าอยู่หัว จึงจะเสด็จ เข้าบรรทมจึงเป็นที่มาของการไม่บรรทมหลับข้ามวัน
ดังตัวอย่างเจ้านายในพระราชวงศ์จักรี เช่น สมเด็จพระพันปีหลวง หรือสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๕ ก็จะทรงงานจนถึงเช้า เล่ากันว่า รอบรอบ ตำหนักที่ประทับวังสวนดุสิต หรือวังพญาไทจะสว่างตลอดทั้งคืน
สมเด็จพระนางสุขุมาล หรือสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี พระมเหสีในรัชกาลที่ ๕ ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขา ส่วนพระองค์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อถึงเวลา ๔ ทุ่ม ก็จะเสด็จขึ้นพระที่นั่งจักรี เพื่อทรงงานพระอักษรถวายรัชกาลที่ ๕ จนถึงตี ๔ จึงเสด็จกลับ
ธรรมเนียมนี้สืบทอดมาจนถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้ว่ายุคสมัยปัจจุบันจะไม่มีการทำสงครามและระวังภัยจากข้าศึกแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงต้องทำตามธรรมเนียม
โดยเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรายังมีพระวรกายแข็งแรงอยู่นั้น ก็จะใช้เวลากลางคืนทรงงานด้านแผนที่และชลประทาน รวมไปถึงสรุปผลการทรงงานของโครงการในพระราชดำริในแต่ละวันจนถึงเช้าจึงจะเสด็จเข้าบรรทม แต่หากวันใดต้องเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่อในช่วงเช้าในหลวงก็จะบรรทมในรถยนต์พระที่นั่งแทน
อีกหนึ่งพระองค์ คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ที่มักจะเสด็จทรงงานในเวลาใกล้ค่ำ กลับถึงตำหนักที่ประทับในเวลาดึกแล้วทรงพระอักษรชมรม หรือมูลนิธิที่พระองค์ทรงดูแลต่อจนใกล้รุ่งถึงเข้าบรรทมจนเป็นกิจวัตร และอีกหลายหลายพระองค์
จะเห็นได้ว่าการงานทั้งหลายที่พระองค์ทรงทำอยู่นี้ พระองค์ไม่ได้ทำให้ตัวของพระองค์เอง แต่พระองค์ทรงทำให้แก่คนไทย ดังที่พระองค์ทรงตรัสไว้เสมอว่า หากเกิดเป็นคนไทย ก็เป็นลูกของเรา ดังนั้นพระองค์จึงทำหน้าที่ของพ่อที่ต้องดูแลลูกลูก ให้มีความสุข